วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 5 สาเหตุความไม่พอใจของลูกค้า

 สาเหตุความไม่พอใจของลูกค้า

   จุดมุ่งหมายของการตลาดนอกจากทำให้องค์กรธุรกิจบรรลุเป้าหมายด้านกำไรและเติบโตแล้ว    สิ่งสำคัญยิ่งคือ การสร้างให้ลูกค้าเกิดความพอใจ ในที่นี้จะอธิบายถึงความหมายของความพอใจลูกค้า การประเมินความพอใจ และการจัดการด้านคุณภาพเพื่อความพอใจของลูกค้า 



  ถ้าผลจากการใช้งาน/การบริการที่ได้รับมีค่าต่ำกว่าค่าคาดหวัง   ผู้บริโภคนั้นย่อมเกิดความไม่พอใจถ้าสิ่งที่ได้รับตรงกับที่คาดหวังถือได้ว่ามีความพอใจกิจการต่าง ๆ ในปัจจุบันมักมุ่งหวังสร้างค่าความพอใจในระดับสูง เพราะยิ่งมีค่าความพอใจสูงมากเท่าใด  โอกาสที่ลูกค้าจะหันเหไปใช้ตรายี่ห้ออื่นยิ่งมีน้อยลงบริษัทชั้นนำหลาย ๆ แห่ง  เช่น  บริษัท Xerox   รถยนต์ Honda ฯลฯ       มุ่งการยกระดับความคาดหวังและสร้างสรรค์ผลลัพธ์ของการบริการ     หรือการใช้งานของสินค้าให้สูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา    เช่น    กำหนดโปรแกรม     TCS      (Total Customer Satisfaction)   โดยมีโปรแกรม   "รับประกันความพอใจ 100%     โดยเริ่มตั้งแต่ก่อนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าจนกระทั่งติดตามภายหลังการซื้อ   เพื่อสร้างความพอใจและความหวังจากลูกค้าที่ได้ซื้อและใช้สินค้านั้น ๆ แล้ว   ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามีความภักดีต่อ สินค้า/องค์กร        ประเด็นสำคัญ    คือ    องค์กรต้องพยายามสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน นำเสนอคุณค่านั้น ๆ สู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และองค์กรพึงพยายามรักษาพันธะสัญญาต่าง ๆ ที่มีให้กับผู้บริโภคเสมอ

การติดตามและประเมินวัดความพอใจลูกค้า (Tools for Tracking and Measuring Customer Satisfaction)
          สิ่งสำคัญยิ่งเพื่อรักษาให้ลูกค้าเกิดความพอใจในระดับสูงต่อสินค้าของเราอย่างต่อเนื่องนั้น  คือ   องค์กรต้อง
หมั่นตรวจสอบและติดตามเพื่อประเมินวัดความพอใจซึ่งมีวิธีการได้ 4 วิธีดังนี้คือ           ตรวจดูข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะจากลูกค้า (Complaint and Suggestion System) ฝ่ายดูแลลูกค้า
หรือลูกค้าสัมพันธ์ของหลาย ๆ บริษัทจะพยายามเอื้ออำนวยให้ลูกค้าได้เสนอหรือร้องเรียนต่อว่าในประเด็นต่าง ๆ
เช่น  มีแบบฟอร์ม   มีกล่องรับข้อเสนอแนะ   จัดให้มีโทรศัพท์สายด่วน   หรือโทรศัพท์ฟรีสำหรับลูกค้า    ขณะเดียว
กันองค์กรจะประเมินถึงจำนวนคำต่อว่าหรือข้อร้องเรียนต่าง ๆ ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด  อยู่ในระดับที่ยอมรับ
ได้หรือไม่   เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข
          สำรวจความพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction Surveys) องค์กรควรมีการสำรวจความพอใจของ
ลูกค้าเป็นระยะ ๆ    โดยอาจส่งแบบสอบถามหรือการสำรวจทางโทรศัพท์ด้วยการสุ่มตัวอย่างเพื่อถามข้อมูลขณะ
เดียวกันอาจให้ลูกค้าเปรียบเทียบความพึงพอใจกับคู่แข่งขันด้วยการสำรวจความพอใจของลูกค้ายังสามารถถาม
ข้อมูลเกี่ยวกับความตั้งใจที่จะซื้อซ้ำได้อีกด้วย      ตามปกติถ้าความพอใจของลูกค้าอยู่ในระดับสูงย่อมแสดงถึงว่า
ลูกค้าจะบอกถึงข้อมูลต่าง ๆ ของ สินค้าไปทางที่ดีและแนะนำผู้อื่นให้ใช้สินค้าของเราอีกด้วย
          การปลอมตัวเพื่อซื้อสินค้า (Ghost Shopping)     องค์กรอาจจ้างบุคคลภายนอกมาแสร้งทำเสมือนกับว่า
จะซื้อสินค้าขององค์กรและสินค้าคู่แข่งขัน    พร้อมกับให้รายงานผลเชิงเปรียบเทียบให้องค์กรทราบ    ขณะเดียวกัน
จะสามารถทราบได้ว่าพนักงานขายขององค์กรมีการจัดการกับลูกค้าอย่างไรตั้งแต่การต้อนรับ       การตอบปัญหา
และการติดตามบริการการขาย       บางครั้งผู้บริหารขององค์กรอาจโทรศัพท์เสมือนหนึ่งเป็นลูกค้าหรือปลอมตัวมา
ตรวจเยี่ยมร้านค้าของตนและคู่แข่งขัน
          การวิเคราะห์ลูกค้าที่สูญเสียไป (Lost Customer Analysis) องค์กรควรพยายามติดต่อลูกค้ากรณีที่ลูกค้า
หยุดซื้อสินค้าของเรา        หรือไปซื้อยี่ห้ออื่นแทนเพื่อหาสาเหตุที่ลูกค้าไม่ซื้อสินค้าของเราอีกต่อไป      ขณะเดียวกัน
องค์กรควรตรวจสอบอัตราของลูกค้าที่สูญหายไปว่าอย่างไร     อัตราที่สูงและเพิ่มขึ้นแสดงถึงว่าองค์กรไม่สามารถ
ทำให้ลูกค้ามีความพอใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น